วันจันทร์ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2553

สาวท้องแก่เหยื่อบึ้มโจรใต้คลอดแล้ว

คลอดแล้วสาวท้องแก่เหยื่อบึ้มตลาดรับซื้อผลไม้ในเขตเทศบาลนครยะลา แม่ยังต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด
นางเสาวลักษณ์ จั่นเจริญ อายุ 28 ปี ซึ่งกำลังตั้งครรภ์ได้ 9 เดือน ถูกนำส่งเข้าพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลศูนย์ยะลา อ.เมือง จ.ยะลา  ซึ่งได้รับบาดเจ็บสาหัส ขณะนี้คลอดแล้ว เด็กปลอดภัย ส่วนแม่แพทย์ต้องดูอาการอย่างใกล้ชิด หลังคนร้ายลอบวางระเบิดบริเวณตลาดรับซื้อผลไม้ 4 แยกบ้านมาลายูบางกอก ต.สะเตง ในเขตเทศบาลนครยะลา อ.เมือง จ.ยะลา ห่างจากจุดตรวจบ้านมาลายูบางกอก เมื่อช่วงกลางดึกของวันที่ 29 ส.ค.ที่ผ่านมานั้น
นพ.กุลเดช เตชะนภารักษ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์ยะลา กล่าวว่า ขณะนี้คนไข้อยู่ในห้องไอซียู อุบัติเหตุ อาการดีขึ้นแล้วหลังจากมาถึงมือแพทย์ คนไข้ตั้งครรภ์ ซึ่งจากการประเมินของแพทย์ และ ประวัติที่ได้มาจากสามีบางส่วนเป็นท้องที่ครบกำหนดคลอด และ จะมีกำหนดคลอดภายในเดือนนี้ คนไข้มีบาดแผลจากแรงระเบิดที่บริเวณแขน ก้น และ ช่องท้อง
จากการตรวจสอบการรักษาพบว่ามีการฉีกขาดของลำใหญ่ และ มีบาดแผลที่บริเวณแขน และ ก้น อาการยังสาหัส ทางแพทย์ได้ตัดสินใจผ่าเอาเด็กออก เพื่อแม่จะได้ไม่ต้องทุกข์ทนทรมาน ซึ่งหากแม่ได้รับบาดเจ็บสาหัสขนาดนี้แล้ว ถ้าไม่เอาลูกออกอาจจะมีผลกระทบต่อลูกในภายหลังได้ ซึ่งเด็กเป็นเด็กผู้ชาย ในขณะนี้ก็อยู่ในสภาพที่ดี มีอาการหายใจเร็วนิดหน่อย ไม่ต้องเป็นกังวล เพราะเป็นอาการของเด็กที่ผ่าท้องคลอด ส่วนอาการบาดเจ็บของแม่นั้น
หลังจากผ่าตัดเอาเด็กออก เรียบร้อยแล้ว อาการดีขึ้น ส่วนบาดแผลลำไส้ใหญ่ที่แตกนั้น แพทย์ได้ทำการผ่าตัดยกตั้งบริเวณหน้าท้องชั่วระยะหนึ่ง แล้วค่อยมาปิดแผลทีหลัง สะดวกต่อการทำความสะอาดแผล ส่วนแผลที่บริเวณแขน ขา และ ที่บริเวณก้น ได้รับการผ่าตัดทำความสะอาดแผล อาการของแม่โดยภาพรวมนั้น ค่อนข้างจะดี ซึ่งแพทย์ต้องทำการดูแลอย่างใกล้ชิด     

จากการตรวจ สอบในที่เกิดเหตุในช่วงเช้าของวันนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานที่ 10 ยะลา พบเศษกระป๋องเครื่องดื่มน้ำอัดลม ที่คาดว่าใช้บรรจุระเบิด รวมทั้ง เศษตะปูจำนวนมาก  และ ดินระเบิด เศษกระเป๋าผ้า เศษธนบัตรฉีกขาดจำนวนมาก  จึงรวบรวมเอาไว้เป็นหลักฐาน 

ทั้งนี้ เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่าเป็นระเบิดชนิดแสวงเครื่อง บรรจุในกระป๋องน้ำอัดลม  ซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าสะพาย  และ เป็นระเบิดที่พบเป็นครั้งแรก ซึ่งแตกต่างจากระเบิดที่พบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้  โดยเชื่อว่าเป็นระเบิดแรงดันต่ำ หรือ ประทัดยักษ์ ส่วนที่พบว่ามาอยู่ในกระเป๋าสะพายได้อย่างไรนั้น คงจะต้องให้พนักงานสอบสวนเป็นผู้สอบสวนต่อไป  
      
ขณะเดียวกัน เมื่อเวลา 08.35 น. วันที่ 30 ส.ค. 53 ร.ต.ท.เทอดศักดิ์ มีจิตร์ ร้อยเวร สภ.จะแนะ จ.นราธิวาส รับแจ้งมีเหตุคนร้ายจุดชนวนระเบิดรถยนต์กระบะของ อส.ประจำที่ว่าการอำเภอจะแนะ ขณะขับผ่านป้อมจุดตรวจทางเข้าที่ว่าการอำเภอ ทำให้เจ้าหน้า อส.ได้รับบาดเจ็บสาหัส 3 นาย จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.จิรวุฒิ ทิศเสถียร ผกก.สภ.จะแนะ พ.ต.ท.จันที แจ่มจันทร์ หน.กองพิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาส และเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด นปพ.จ.นราธิวาส รวมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารฝ่ายปกครองจำนวนหนึ่งรุดเดินทางไปตรวจสอบที่ เกิดเหตุ
               
โดยพบเจ้าหน้าที่ อส.ซึ่งนั่งอยบู่บริเวณชายหลังของแค๊ปโดยสาร รถยนต์กระบะพยี่ห้อโตโยต้า สีบรอนส์-ทอง ทะเบียน บธ-3589 แพร่ ซึ่งอยู่ในสภาพเลือดท่วมตัวและรถยนต์กระบะได้รับความเสียหายทั้งคัน เจ้าหน้าที่จึงได้ลำเลียงผู้บาดเจ็บทั้ง 3 นาย ส่งรักษาเป็นการเร่งด่วนที่โรงพยาบาลจะแนะ ประกอบด้วย 1. อส.อับดุลเลาะ อับดุลลาเต๊ะ 2. อส.อาหะมะ เจ๊ะแว 3. อส.อดิศร บาโด ซึ่งทั้ง 3 นายถูกสะเก็ดระเบิดตามบริเวณลำตัวเป็นแผลฉกรรจ์ และอาการสาหัส แพทย์ต้องส่งตัวรักษาต่อยังโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์
               
ส่วนในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่สามารถตรวจสอบพบหลักฐานสำคัญๆ ประกอบด้วย เศษซากชิ้นส่วนของระเบิดแสวงเครื่องที่คนร้ายประกอบใส่ไว้ในกล่องเหล็ก หนัก 5 ก.ก. จุดชนวนด้วยโทรศัพท์มือถือ ตกกระจายเกลื่อนที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน
    
จากการสอบสวน อส.พงศกร เจ้าของรถยนต์กระบะ ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้ขับรถยนต์กระบะออกจากบ้านพัก โดยมีเพื่อน อส.อีก 3 นาย นั่งโดยสารที่บริเวณแค๊ปเพื่อเดินทางมาทำงานเป็นประจำทุกวัน และคาดว่าในช่วงคืนที่ผ่านมากลุ่มคนร้ายได้แอบนำระเบิดแสวงเครื่องนำไปผูก ไว้ใต้บริเวณคัดซีของรถยนต์กระบะที่ตนมักจะนำมาจอดไว้หน้าบริเวณบ้านพัก และขณะที่ตนขับรถยนต์ผ่านป้อมจุดตรวจทางเข้าที่ว่าการอำเภอ กลุ่มคนร้ายคงจะขี่รถ จยย.ตามความเคลื่อนไหวไล่หลังมาห่างๆ และได้ใช้โทรศัพท์มือถือจุดชนวนระเบิด จนเกิดระเบิดขึ้นเสียงดังสนั่นหวั่นไหว จนทำให้รถยนต์เสียหายและเพื่อน อส.ทั้ง 3 นายได้รับบาดเจ็บดังกล่าว.

0 แสดงความคิดเห็น: